ข้อบังคับขมรม

ข้อบังคับ

ชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์จังหวัดลำพูน

 

หมวดที่ 1 บททั่วไป

1.  ข้อบังคับนี้เรียกว่า “ข้อบังคับชมรมบริหารทรัพยากรมนุษย์จังหวัดลำพูน

2. ชมรมนี้มีชื่อเรียกว่า “ชมรมบริหารทรัพยากรมนุษย์จังหวัดลำพูน”

ชื่อภาษาอังกฤษว่า “Lumphun Human Resources Management Club”

ใช้ชื่อย่อเป็นภาษาอังกฤษว่า “LHRM”

3. สถานที่ตั้งชมรมบริหารทรัพยากรมนุษย์จังหวัดลำพูน

4. สำนักงานตั้งอยู่ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลำพูน อาคารศูนย์ราชการกระทรวงแรงงาน จังหวัดลำพูน 51000

5. เครื่องหมายของชมรมบริหารทรัพยากรมนุษย์จังหวัดลำพูน ดังรูปที่แสดงไว้ด้านล่างนี้

 

หมวดที่ 2 วัตถุประสงค์

  1. เพื่อส่งเสริมหลักการปรับปรุงความรู้ความสามารถในด้านการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ให้ก้าวหน้าและเพื่อส่งเสิรมสัมพันธภาพอันดีระหว่างสมาชิกด้วยกัน
  2. เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับสมาชิกในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การพัฒนาเผยแพร่ความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์
  3. เพื่อดำเนินการเองหรือให้ความร่วมมือกับสถาบันอื่น ๆ ในกิจกรรมทางวิชาการที่เป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์
  4. เพื่อส่งเสริมและดำเนินการให้เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนอันนำไปสู่ความสงบเรียบร้อยของการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ในสถานประกอบการและสังคมส่วนรวม
  5. เป็นองค์กรที่ไม่แสวงหาผลประโยชน์ด้านการเงิน และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

 

หมวดที่ 3 ประเภทสมาชิก

1. สมาชิกมี 2 ประเภทคือ

1.1 สมาชิกประเภทสถาบัน

1.2 สมาชิกประเภทบุคคล

2. สมาชิกสถาบันหมายถึงสถานประกอบการที่เกี่ยวกับอุตสาหกรรม พาณิชยกรรม ธุรกิจหรือสถาบันการศึกษาที่มีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริมความรู้เกี่ยวกับการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ สมาชิกสถาบันมีสิทธิแต่งตั้งผู้แทนได้ไม่เกินสถาบันละ 2 คนโดยได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบงานบริหารทรัพยากรมนุษย์ในสถานประกอบการนั้น

3. สมาชิกบุคคล หมายถึงผู้ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ หรือผู้ที่เคยมีประสบการณ์ในหน้าที่ดังกล่าว

 

หมวดที่ 4 สมาชิกภาพ

  1. การสมัครเข้าเป็นสมาชิก จะต้องยื่นใบสมัครต่อคณะกรรมการฝ่ายทะเบียนสมาชิกตามแบบที่กำหนดไว้เพื่อเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการพิจารณา
  2. สมาชิกสิ้นสุดสมาชิกภาพลงเมื่อ

2.1 เสียชีวิต

2.2 ลาออก

2.3 เป็นบุคคลวิกลจริต หรือเสมือนไร้ความสามารถโดยคำพิพากษาของศาล

2.4 เป็นบุคคลล้มละลาย หรือเลิกกิจการในกรณีที่เป็นสมาชิกสถาบัน

2.5 ไม่ชำระค่าบำรุงภายในเวลาที่กำหนด

 

หมวดที่ 5 ค่าบำรุงสมาชิก

1. ค่าบำรุงประจำปีสำหรับสมาชิกให้ถืออัตราดังต่อไปนี้

1.1 สมาชิกสถาบันปีละ 1,000 บาท

1.2 สมาชิกบุคคลปีละ     500 บาท

2. ผู้ที่สมัครเข้าเป็นสมาชิกต้องชำระเงินค่าบำรุงในวันที่สมัครทันทีโดยจ่ายเงินสด หรือแสดงสำเนาใบ Pay-in ให้แก่คณะกรรมการฝ่ายเหรัญญิกเพื่อเป็นหลักฐานการโอนค่าสมาชิก

 

หมวดที่ 6 สิทธิและหน้าที่ของสมาชิก

  1. สมาชิกบุคคลและผู้แทนสมาชิกสถาบันเท่านั้นที่มีสิทธิออกเสียงลงคะแนนในที่ “ประชุมใหญ่” ในกรณีเป็นสมาชิกสถาบันมีสิทธิออกเสียงได้สถาบันละ 1 เสียง
  2. สมาชิกบุคคลและผู้แทนสมาชิกสถาบันมีสิทธิในการรับเลือกตั้งหรือรับการแต่งตั้งเป็นกรรมการหรืออนุกรรมการของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์
  3. สมาชิกมีสิทธิที่จะเข้าประชุมใหญ่เสนอความคิดเห็นหรือซักถามกิจการของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ ต่อคณะกรรมการตลอดจนเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของสมาชิกทั้งหมดร้องขอให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญได้
  4. สมาชิกมีสิทธิใช้บริการของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ตามที่ระเบียบได้กำหนดไว้
  5. สมาชิกมีหน้าที่ให้ความร่วมมือส่งเสริมสนับสนุนกิจการและปฏิบัติตามข้อบังคับของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์

 

หมวดที่ 7 คณะกรรมการ

1.ให้มีคณะกรรมการชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์อย่างน้อย 7 คนแต่ไม่เกิน 15 คนโดยการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่

2.ให้คณะกรรมการตามข้อ 1 จัดประชุมภายใน 30 วันนับจากวันประชุมใหญ่เพื่อจัดสรรตำแหน่งตามข้อ 3

3.ตำแหน่งของคณะกรรมการของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์อย่างน้อยต้องประกอบด้วย ประธาน, รองประธาน, เลขานุการ และตำแหน่งอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการเห็นสมควร

4.คณะกรรมการจะอยู่ในตำแหน่ง วาระละ 2 ปี

5.กรรมการที่ต้องออกตามวาระมีสิทธิได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ ให้กลับเข้ามาเป็นกรรมการได้อีก ทั้งนี้ต้องไม่เกิน 2 วาระติดต่อกัน ยกเว้นได้รับความเห็นชอบจากมติในที่ประชุมใหญ่

6.ให้ประธานเรียกประชุมคณะกรรมการภายใน 30 วันนับแต่วันประชุมใหญ่ที่มีการเลือกตั้งเพื่อรับมอบงานจากคณะกรรมการชุดเดิม

7.เมื่อตำแหน่งกรรมการใดว่างลง ให้คณะกรรมการแต่งตั้งสมาชิกขึ้นมาแทนภายใน 45 วันนับจากวันสิ้นสุดสมาชิกภาพของกรรมการคนเดิม กรรมการที่ได้รับแต่งตั้งหรือเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งทดแทนตำแหน่งที่ว่างลง จะอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลือของกรรมการที่ตนถูกเลือกเข้ามาทำหน้าที่ทดแทน

8.นอกจากถึงคราวออกตามวาระแล้ว กรรมการอาจจะพ้นตำแหน่งด้วยเหตุอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้

8.1 พ้นจากสมาชิกภาพ

8.2 ลาออกและได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการแล้ว

8.3 ที่ประชุมใหญ่ลงมติให้ออกด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนผู้ที่เข้าร่วมประชุม

9.กรณียังไม่สามารถเลือกตั้งสมาชิกชุดใหม่ได้ คณะกรรมการชุดเดิมให้รักษาการแทนจนกว่าจะเลือกตั้งหรือแต่งตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ได้

10.คณะกรรมการจะมีบทบาทหน้าที่ ดังนี้

10.1 กำหนดนโยบายการบริหาร และวางระเบียบการปฏิบัติงานของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์

10.2 ดำเนินการกิจการของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่วางไว้

10.3 จัดให้มีการประชุมสามัญของคณะกรรมการอย่างน้อย 6 เดือนครั้ง และต้องมีกรรมการร่วมประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่ง จึงนับว่าครบเป็นองค์ประชุม ในกรณีที่มีความจำเป็นให้ประธานชมรมฯ หรือกรรมการไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของคณะกรรมการทั้งหมด มีหนังสือยื่นต่อประธานชมรมฯ ขอให้เรียกประชุมวิสามัญได้ ให้ประธานชมรมฯ เป็นประธานที่ประชุม ถ้าประธานชมรมฯ ไม่สามารถเข้าร่วมประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานเป็นประธานที่ประชุมแทนกรณีที่ประธานและรองประธานไม่สามารถเข้าร่วมประชุมหรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ให้ที่ประชุมเลือกกรรมการคนใดคนหนึ่งเป็นประธานที่ประชุมแทน

10.4 จัดให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปีอย่างน้อยละ 1 ครั้ง ในกรณีที่มีความจำเป็นโดยมติคณะกรรมการให้เรียกประชุมใหญ่วิสามัญ โดยแจ้งให้สมาชิกทราบล่วงหน้าก่อนวันประชุมอย่างน้อย 15 วัน

10.5 พิจารณาอนุมัติรับสมาชิกอนุมัติการลาออก หรือสิ้นสุดสมาชิกภาพของสมาชิก

10.6 มีสิทธ์ที่จะแต่งตั้งสมาชิกเป็นอนุกรรมการเพื่อช่วยงานของกรรมการได้ตามความเหมาะสม

10.7 มีสิทธิที่จะแต่งตั้งที่ปรึกษาชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ได้ตามความเหมาะสม

10.8 การยกเลิก เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ ให้คณะกรรมการพิจารณาแล้วนำเสนอที่ประชุมใหญ่เพื่อมีมติรับรอง

 

หมวดที่ 8 การประชุมใหญ่

1. ให้มีการประชุมใหญ่สามัญประจำปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง

1.1 รับรองการประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่แล้ว

1.2 แถลงกิจการ และผลงานที่ได้กระทำไปแล้ว

1.3 แถลงงบดุล แสดงฐานะการเงินของชมรมฯ

1.4 ดำเนินการเลือกตั้งคณะกรรมการชมรมฯ ชุดใหม่

2. องค์ประกอบของที่ประชุมใหญ่ ต้องประกอบด้วยสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงที่เข้าร่วมประชุมไม่น้อยกว่า 1 ใน 3 ของจำนวนสมาชิกทั้งหมด

3. กรณีที่สมาชิกมาไม่ครบองค์ประชุมตามข้อ 2 ให้เรียกประชุมครั้งต่อไปภายใน 30 วัน นับแต่วันที่เรียกประชุมครั้งแรก และไม่ว่าสมาชิกจะมาประชุมเป็นเท่าใด ก็ให้ถือว่าครบองค์ประชุม

4. ให้ประธานชมรมฯ หรือรองประธานชมรมฯ ทำหน้าที่เป็นประธานในที่ประชุม

5. มติของที่ประชุมใหญ่ให้ถือเสียงข้างมากของจำนวนสมาชิกที่เข้าประชุม ในกรณีที่คะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานลงคะแนนเสียงชี้ขาด

6. ที่ประชุมใหญ่มีมติยกเลิก เปลี่ยนแปลงแก้ไข หรือเพิ่มเติมข้อบังคับของชมรมฯ ตามที่คณะกรรมการเสนอ

 

หมวดที่ 9 การเงินและการดำเนินงาน

  1. เงินของชมรมฯ ให้ฝากไว้กับธนาคาร ซึ่งคณะกรรมการเป็นผู้กำหนด
  2. คณะกรรมการมีอำนาจใช้เงินของชมรมฯ ตามมติของคณะกรรมการเพื่อดำเนินกิจการให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของชมรมฯ
  3. การเบิกจ่ายเงินทุกครั้ง ต้องมีเหรัญญิกลงลายมือชื่อร่วมกับประธานชมรมฯหรือรองประธานที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการชมรมฯ
  4. การกระทำใด ๆ ในนามของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวกับการเงินต้องมีประธานชมรมฯ หรือรองประธานลงลายมือชื่อร่วมกับกรรมการคนใดคนหนึ่งที่ได้รับมอบหมาย

 

หมวดที่ 10 การเลิกชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์

  1. ชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ เลิกได้โดยมติที่ประชุมใหญ่อันประกอบด้วยคะแนนเสียงไม่ต่ำกว่า 3 ใน 4 ของจำนวนสมาชิกที่เข้าร่วมประชุม
  2. เมื่อเลิกชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์แล้ว บรรดาทรัพย์สินของชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ที่เหลือจากการชำระหนี้ให้มอบแก่องค์กรการกุศล มูลนิธิหรือสถาบันการศึกษาที่เป็นนิติบุคคลตามกฏหมายซึ่งที่ประชุมใหญ่จะกำหนดตามข้อ 1

 

ข้อบังคับชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์นี้ ที่ประชุมใหญ่มีมติรับรองเมื่อวันที่ 27 มกราคม 2560 และให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2560 เป็นต้นไป

นายพรเทพ เย็นฉ่ำ

ประธานชมรมบริหารงานทรัพยากรมนุษย์ จังหวัดลำพูน